กลุ่มงาน: การลดก๊าซเรือนกระจก
วันปลอดรถยนต์โลก (World Car-Free Day) ถูกจัดขึ้นในวันที่ 22 กันยายนของทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ การเดินเท้า และการใช้จักรยานแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว วันดังกล่าวเป็นโอกาสที่ให้ผู้คนได้ตระหนักถึงผลกระทบของการใช้รถยนต์ต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และคุณภาพชีวิตในเมือง
การจัดกิจกรรมวันปลอดรถยนต์โลกทำให้เกิดผลดีกับสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง
กิจกรรมวันปลอดรถยนต์โลก (Car Free Day) ส่งผลดีในแง่สิ่งแวดล้อมคือ
การลดมลพิษ: กิจกรรมนี้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะเป็นเพียงวันเดียว แต่การลดการใช้รถยนต์สามารถนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพอากาศและลดมลพิษได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น ในกิจกรรม "In town without my car!" ที่จัดขึ้นในปารีสในปี 2005 ในปารีส ระดับไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ลดลงถึง 40% และมลพิษทางเสียงลดลง 50% ในวันที่จัดกิจกรรม หรือในเมืองที่พลุกพล่านอย่างจาการ์ตา กิจกรรมคาร์ฟรีเดย์ส่งผลให้ระดับฝุ่นละออง (PM10) ลดลง 30% ส่งผลให้คุณภาพอากาศโดยรวมดีขึ้น นอกจากนี้ การลดการใช้รถยนต์ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอีกด้วย
การสร้างความตระหนักรู้: วันปลอดรถยนต์ช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาการใช้รถยนต์ส่วนตัวและสนับสนุนการใช้ระบบขนส่งสาธารณะและการเดินทางที่ยั่งยืน.
ข้อจำกัด
การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ยั่งยืน: การจัดกิจกรรมเพียงวันเดียวอาจไม่เพียงพอในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเดินทางของประชาชนในระยะยาว หากไม่มีนโยบายสนับสนุนที่ต่อเนื่อง
ปัญหาระบบขนส่ง: ในบางเมือง เช่น กรุงเทพฯ ปัญหาการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนที่ไม่ทั่วถึงหรือระบบขนส่งที่มาช้าเกินไปและความปลอดภัยยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้
วันปลอดรถยนต์โลกมีศักยภาพในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ แต่ต้องมีการสนับสนุนจากนโยบายที่ยั่งยืนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในระยะยาว.
Share: